พระคัมภีร์ ปฐมกาลบทที่ 6 - 9
เมื่อมนุษย์เริ่มทวีจำนวนมากขึ้นบนแผ่นดินโลก และความชั่วร้ายของมนุษย์ก็ทวีมากขึ้นด้วย ความคิดจิตใจของเขาก็โน้มเอียงไปในทางชั่วอยู่เสมอ มนุษย์ เต็มไปด้วยความโหดร้ายทารุณ
พระเจ้าทรงเสียพระทัยยิ่งนักที่ได้ทรงสร้างมนุษย์ขึ้นมา ดังนั้น พระเจ้า จึงตรัสว่า “เราจะกวาดล้างมนุษยชาติที่เราได้สร้างขึ้นออกจากผืนแผ่นดิน ทั้งมนุษย์และสัตว์ทั้งปวง สัตว์ที่เลื้อยคลาน และนกในอากาศ เพราะเราเสียใจที่ได้สร้างพวกนี้ขึ้นมา”
แต่มีคนหนึ่งที่พระเจ้าทรงโปรดปราน คือโนอาห์ โนอาห์เป็นคนชอบธรรม เป็นคนดีพร้อมเมื่อเทียบกับคนในยุคของเขา เขาดำเนินชีวิตไปกับพระเจ้า โนอาห์มีบุตรชายสามคนคือ เชม ฮาม และยาเฟท
พระเจ้าจึงตรัสกับโนอาห์ว่า “เราจะทำลายมนุษย์รวมทั้งสัตว์ทั้งสิ้น เพราะโลกเต็มไปด้วยความโหดร้ายทารุณ เราจะทำลายสิ่งเหล่านี้
เมื่อมนุษย์เริ่มทวีจำนวนมากขึ้นบนแผ่นดินโลก และความชั่วร้ายของมนุษย์ก็ทวีมากขึ้นด้วย ความคิดจิตใจของเขาก็โน้มเอียงไปในทางชั่วอยู่เสมอ มนุษย์ เต็มไปด้วยความโหดร้ายทารุณ
พระเจ้าทรงเสียพระทัยยิ่งนักที่ได้ทรงสร้างมนุษย์ขึ้นมา ดังนั้น พระเจ้า จึงตรัสว่า “เราจะกวาดล้างมนุษยชาติที่เราได้สร้างขึ้นออกจากผืนแผ่นดิน ทั้งมนุษย์และสัตว์ทั้งปวง สัตว์ที่เลื้อยคลาน และนกในอากาศ เพราะเราเสียใจที่ได้สร้างพวกนี้ขึ้นมา”
แต่มีคนหนึ่งที่พระเจ้าทรงโปรดปราน คือโนอาห์ โนอาห์เป็นคนชอบธรรม เป็นคนดีพร้อมเมื่อเทียบกับคนในยุคของเขา เขาดำเนินชีวิตไปกับพระเจ้า โนอาห์มีบุตรชายสามคนคือ เชม ฮาม และยาเฟท
พระเจ้าจึงตรัสกับโนอาห์ว่า “เราจะทำลายมนุษย์รวมทั้งสัตว์ทั้งสิ้น เพราะโลกเต็มไปด้วยความโหดร้ายทารุณ เราจะทำลายสิ่งเหล่านี้
ดังนั้นเจ้าจงต่อเรือใหญ่ และกั้นเป็นห้องๆ แล้วยาด้วยชันตลอดทั้งนอกและใน
เรือนี้ยาว 300 ศอก กว้าง 50 ศอก และสูง 30 ศอก
จงทำหลังคาคลุมและระหว่างหลังคากับตัวเรือให้เว้นช่องสูง 1 ศอก โดยรอบ
จงทำประตูบานหนึ่งไว้ด้านข้างของเรือ และต่อเรือเป็นชั้นล่าง ชั้นกลาง ชั้นบน
เรากำลังจะให้น้ำท่วมโลกเพื่อทำลายสิ่งมีชีวิตทั้งมวลภายใต้ฟ้าสวรรค์
แต่เราจะทำพันธสัญญาอันมั่นคงกับเจ้า เจ้าจะเข้าไปในเรือ
คือทั้งตัวเจ้า ภรรยา บุตรชาย และบุตรสะใภ้ของเจ้า จงนำสัตว์ทุกชนิดมาเป็นคู่ๆ
ทั้งตัวผู้และตัวเมียเข้ามาในเรือเพื่อรักษาชีวิตของมันให้รอดด้วยกันกับเจ้า
หลังจากนั้นโนอาห์ก็ทำทุกสิ่งตามที่พระเจ้าทรงบัญชา”จนสำเร็จ ถึงแม้จะถูกคนในเวลานั้นหัวเราะ หลายคนต่างไม่เชื่อโนอาห์ว่าพระเจ้าจะให้น้ำท่วมโลก
หลังจากนั้นโนอาห์ก็ทำทุกสิ่งตามที่พระเจ้าทรงบัญชา”จนสำเร็จ ถึงแม้จะถูกคนในเวลานั้นหัวเราะ หลายคนต่างไม่เชื่อโนอาห์ว่าพระเจ้าจะให้น้ำท่วมโลก
และเมื่อถึงเวลาของพระเจ้า องค์พระผู้เป็นเจ้า ตรัสกับโนอาห์ว่า “จงเข้าไปในเรือพร้อมกับครอบครัวของเจ้า
เพราะเราเห็นว่าเจ้าเป็นคนชอบธรรมคนเดียวในบรรดาคนชั่วอายุนี้
จงนำสัตว์เหล่านี้ไปกับเจ้าด้วย คือสัตว์ที่ไม่เป็นมลทินทุกชนิดอย่างละเจ็ดคู่ สัตว์ที่เป็นมลทินทุกชนิดอย่างละคู่
ทั้งนกทุกชนิดอย่างละเจ็ดคู่ทั้งตัวผู้และตัวเมีย เพื่อรักษาเผ่าพันธุ์ของสัตว์ทุกชนิดบนโลก อีกเจ็ดวันเราจะให้ฝนตกบนโลกนี้ 40วัน 40 คืน และเราจะกวาดล้างสิ่งมีชีวิตทั้งปวงซึ่งเราสร้างขึ้นนั้นไปจากแผ่นดินโลก” โนอาห์ก็ทำทุกสิ่งตามที่ องค์พระผู้เป็นเจ้า ทรงบัญชา
หลังจากนั้นอีกเจ็ดวัน ตาน้ำบาดาลพลุ่งทะลักขึ้นมาและประตูน้ำแห่งฟ้าสวรรค์ก็เปิดออก ฝนก็เทลงมาบนแผ่นดินโลกตลอดสี่สิบวันสี่สิบคืน
ตลอดสี่สิบวันนั้น น้ำก็ท่วมสูงจนหนุนเรือให้ลอยขึ้น ปริมาณน้ำบนโลกเพิ่มขึ้นมากจนยกเรือให้ลอยขึ้นเหนือผิวน้ำ น้ำท่วมโลกรุนแรงมากจนมิดภูเขาสูงทั้งหมดที่อยู่ใต้ฟ้า ระดับน้ำสูงเหนือยอดเขาต่างๆ ขึ้นไปกว่า 15 ศอก สิ่งมีชีวิตทั้งหมดที่อยู่ทั่วโลกก็พินาศ ทั้งนก สัตว์เลี้ยง สัตว์ป่า สัตว์ที่เลื้อยคลาน และมวลมนุษยชาติ สรรพสิ่งที่มีลมหายใจแห่งชีวิตและดำรงชีวิตอยู่บนบกก็ตายหมด
ทั้งนกทุกชนิดอย่างละเจ็ดคู่ทั้งตัวผู้และตัวเมีย เพื่อรักษาเผ่าพันธุ์ของสัตว์ทุกชนิดบนโลก อีกเจ็ดวันเราจะให้ฝนตกบนโลกนี้ 40วัน 40 คืน และเราจะกวาดล้างสิ่งมีชีวิตทั้งปวงซึ่งเราสร้างขึ้นนั้นไปจากแผ่นดินโลก” โนอาห์ก็ทำทุกสิ่งตามที่ องค์พระผู้เป็นเจ้า ทรงบัญชา
หลังจากนั้นอีกเจ็ดวัน ตาน้ำบาดาลพลุ่งทะลักขึ้นมาและประตูน้ำแห่งฟ้าสวรรค์ก็เปิดออก ฝนก็เทลงมาบนแผ่นดินโลกตลอดสี่สิบวันสี่สิบคืน
ตลอดสี่สิบวันนั้น น้ำก็ท่วมสูงจนหนุนเรือให้ลอยขึ้น ปริมาณน้ำบนโลกเพิ่มขึ้นมากจนยกเรือให้ลอยขึ้นเหนือผิวน้ำ น้ำท่วมโลกรุนแรงมากจนมิดภูเขาสูงทั้งหมดที่อยู่ใต้ฟ้า ระดับน้ำสูงเหนือยอดเขาต่างๆ ขึ้นไปกว่า 15 ศอก สิ่งมีชีวิตทั้งหมดที่อยู่ทั่วโลกก็พินาศ ทั้งนก สัตว์เลี้ยง สัตว์ป่า สัตว์ที่เลื้อยคลาน และมวลมนุษยชาติ สรรพสิ่งที่มีลมหายใจแห่งชีวิตและดำรงชีวิตอยู่บนบกก็ตายหมด
น้ำท่วมโลกอยู่นาน 150 วัน”
“พระเจ้าทรงระลึกถึงโนอาห์และสัตว์ป่ากับสัตว์ใช้งานทุกชนิดที่อยู่กับเขาในเรือ
พระองค์ทรงบันดาลให้กระแสลมพัดเหนือแผ่นดิน แล้วน้ำก็ลดลง
ตาน้ำบาดาลและประตูน้ำแห่งฟ้าสวรรค์ก็ถูกปิดและฝนก็หยุดตกจากฟ้า น้ำจึงลดลงเรื่อยๆ
จนกระทั่ง 150 วันผ่านไป
เมื่อน้ำลดลงเรื่อยๆ ยอดเขาต่างๆ ก็ปรากฏให้เห็น ส่วนเรือของโนอาห์ ก็ค้างอยู่บนเทือกเขาอารารัตหลังจากนั้นอีก40วัน
โนอาห์เปิดหน้าต่างเรือ และปล่อยกาตัวหนึ่งออกไป มันบินไปและมันก็บินกลับมา หลังจากนั้น โนอาห์จึงปล่อยนกพิราบออกไปตัวหนึ่งเพื่อดูว่าน้ำลดจนถึงผิวดินแล้วหรือไม่
แต่นกพิราบไม่พบที่ที่จะเกาะเพราะว่าระดับน้ำยังสูงอยู่ จึงกลับมาหาโนอาห์ที่เรือ
โนอาห์ก็ยื่นมือออกรับนกพิราบเข้ามาในเรือดังเดิม เขาคอยอีกเจ็ดวัน
แล้วปล่อยนกพิราบออกไปจากเรืออีกครั้งหนึ่ง เมื่อนกพิราบกลับมาหาเขาในตอนเย็น
มันคาบใบมะกอกเขียวสดมาด้วย โนอาห์จึงรู้ว่าน้ำลดลงจากแผ่นดินแล้ว
เขาคอยอีกเจ็ดวันแล้วปล่อยนกพิราบออกไปอีก แต่คราวนี้มันไม่ได้กลับมาหาเขา
โนอาห์เปิดหลังคาเรือออกมาดูก็เห็นว่าพื้นดินแห้งแล้ว
พอถึงวันที่ยี่สิบเจ็ดเดือนที่สอง แผ่นดินก็แห้งสนิท แล้วพระเจ้าตรัสกับโนอาห์ว่า “เจ้า ภรรยาของเจ้า
บรรดาบุตรชายและบุตรสะใภ้ของเจ้า จงออกจากเรือ
จงนำสิ่งมีชีวิตทุกชนิดที่อยู่กับเจ้าออกมาด้วย ทั้งนก สัตว์ต่างๆ สัตว์ที่เลื้อยคลาน
เพื่อพวกมันจะได้ออกลูกออกหลานและทวีจำนวนขึ้นในโลก”โนอาห์และครอบครัวได้ออกมาจากเรือพร้อมทั้งสัตว์ต่างๆ
โนอาห์สร้างแท่นบูชาแด่ องค์พระผู้เป็นเจ้า
และถวายสัตว์และนกที่ไม่เป็นมลทินจำนวนหนึ่งเป็นเครื่องเผาบูชาบนแท่นนั้น
องค์พระผู้เป็นเจ้า ทรงได้กลิ่นอันเป็นที่พอพระทัยและทรงตรัสว่า“เราจะไม่สาปแช่งแผ่นดินเพราะมนุษย์อีกต่อไป
ถึงแม้ว่า จิตใจของมนุษย์จะโน้มเอียงไปในทางชั่วตั้งแต่วัยเด็ก
แต่เราจะไม่ทำลายล้างสิ่งมีชีวิตทั้งปวงอย่างที่เราได้ทำในคราวนี้อีก “ตราบใดที่โลกยังคงอยู่ ตราบนั้นจะมีฤดูหว่านและฤดูเก็บเกี่ยว
ความหนาวเย็นและความร้อน ฤดูร้อนและฤดูหนาว วันและคืน อยู่เรื่อยไป””
พันธสัญญาที่พระเจ้าทรงกระทำกับโนอาห์
เราจะตั้งพันธสัญญาของเราไว้กับพวกเจ้าว่าจะไม่ทำลายบรรดามนุษย์และสัตว์โดยให้น้ำท่วมอีก และจะไม่ให้มีน้ำมาท่วมทำลายโลกอีกต่อไป พระเจ้าตรัสว่า “นี่แหละเป็นเครื่องหมายแห่งพันธสัญญา ซึ่งเราตั้งไว้ระหว่างเรากับพวกเจ้า ทั้งบรรดาสัตว์มีชีวิตที่อยู่กับเจ้าสืบไปทุกชั่วอายุ คือเราตั้งรุ้งของเราไว้ที่เมฆ และรุ้งนั้นจะเป็นเครื่องหมายแห่งพันธสัญญาระหว่างเรากับโลก เมื่อเราให้มีเมฆเหนือแผ่นดิน และมีรุ้งขึ้นที่เมฆนั้น เราจะระลึกถึงพันธสัญญาของเราระหว่างเรากับเจ้าและบรรดาสัตว์ที่มีชีวิต แล้วน้ำจะไม่ท่วมทำลายบรรดาสัตว์โลกอีกเลย เมื่อมีรุ้งที่เมฆ เราจะดูรุ้งนั้น และระลึกถึงพันธสัญญาถาวรระหว่างพระเจ้ากับบรรดาสัตว์โลกที่มีชีวิต ซึ่งอยู่บนแผ่นดินโลกพระเจ้าตรัสแก่โนอาห์ว่า “นี่แหละเป็นเครื่องหมายแห่งพันธสัญญาที่เราได้ตั้งไว้ระหว่างเรากับบรรดาสัตว์โลกซึ่งอยู่บนแผ่นดิน”
พันธสัญญาที่พระเจ้าทรงกระทำกับโนอาห์
เราจะตั้งพันธสัญญาของเราไว้กับพวกเจ้าว่าจะไม่ทำลายบรรดามนุษย์และสัตว์โดยให้น้ำท่วมอีก และจะไม่ให้มีน้ำมาท่วมทำลายโลกอีกต่อไป พระเจ้าตรัสว่า “นี่แหละเป็นเครื่องหมายแห่งพันธสัญญา ซึ่งเราตั้งไว้ระหว่างเรากับพวกเจ้า ทั้งบรรดาสัตว์มีชีวิตที่อยู่กับเจ้าสืบไปทุกชั่วอายุ คือเราตั้งรุ้งของเราไว้ที่เมฆ และรุ้งนั้นจะเป็นเครื่องหมายแห่งพันธสัญญาระหว่างเรากับโลก เมื่อเราให้มีเมฆเหนือแผ่นดิน และมีรุ้งขึ้นที่เมฆนั้น เราจะระลึกถึงพันธสัญญาของเราระหว่างเรากับเจ้าและบรรดาสัตว์ที่มีชีวิต แล้วน้ำจะไม่ท่วมทำลายบรรดาสัตว์โลกอีกเลย เมื่อมีรุ้งที่เมฆ เราจะดูรุ้งนั้น และระลึกถึงพันธสัญญาถาวรระหว่างพระเจ้ากับบรรดาสัตว์โลกที่มีชีวิต ซึ่งอยู่บนแผ่นดินโลกพระเจ้าตรัสแก่โนอาห์ว่า “นี่แหละเป็นเครื่องหมายแห่งพันธสัญญาที่เราได้ตั้งไว้ระหว่างเรากับบรรดาสัตว์โลกซึ่งอยู่บนแผ่นดิน”
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น